คลอโรฟิทัมเป็นดอกไม้ชนิดแรกที่สามารถปลูกในบ้านใหม่เพื่อดูดซับก๊าซที่เป็นอันตรายภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลอโรฟิทัมเป็นที่รู้จักในฐานะ “ตัวฟอกอากาศ” ในห้อง เนื่องจากมีความสามารถในการดูดซับฟอร์มาลดีไฮด์ได้ดี

ว่านหางจระเข้เป็นพืชสีเขียวธรรมชาติที่ช่วยเสริมความงามและฟอกอากาศ ไม่เพียงแต่ปล่อยออกซิเจนในระหว่างวันเท่านั้น แต่ยังดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในห้องในเวลากลางคืนอีกด้วย ภายใต้สภาพแสงตลอด 24 ชั่วโมง ว่านหางจระเข้สามารถกำจัดฟอร์มาลดีไฮด์ที่มีอยู่ในอากาศได้

ข่าว_imgs01

อากาเว่, ซองเซเวียร์ia และดอกไม้อื่นๆ สามารถดูดซับก๊าซที่เป็นอันตรายภายในบ้านได้มากกว่า 80% และยังมีความสามารถในการดูดซับฟอร์มาลดีไฮด์ได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

ข่าว_imgs02

กระบองเพชร เช่น Echinocactus grusonii และดอกไม้ชนิดอื่นๆ สามารถดูดซับก๊าซพิษและเป็นอันตรายที่เกิดจากการตกแต่ง เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์และอีเธอร์ และยังสามารถดูดซับรังสีคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย

ข่าว_imgs03

Cycas เป็นปรมาจารย์ในการดูดซับมลพิษเบนซินภายในอาคาร และสามารถย่อยสลายสารฟอร์มาลดีไฮด์ในพรม วัสดุฉนวน ไม้อัด และไซลีนที่ซ่อนอยู่ในวอลเปเปอร์ซึ่งเป็นอันตรายต่อไตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าว_imgs04

Spathiphyllum สามารถกรองก๊าซเสียภายในบ้านได้ และมีผลในการทำความสะอาดฮีเลียม เบนซิน และฟอร์มาลดีไฮด์ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราการฟอกโอโซนที่สูง การวางไว้ข้างๆ ก๊าซในครัวสามารถฟอกอากาศ กำจัดกลิ่นในการปรุงอาหาร เขม่าควัน และสารระเหย

ข่าว_imgs05

นอกจากนี้ ดอกกุหลาบยังสามารถดูดซับก๊าซที่เป็นอันตรายได้มากขึ้น เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์ ไฮโดรเจนฟลูออไรด์ ฟีนอล และอีเธอร์ ดอกเดซี่และไดเฟนบาเคียสามารถขจัดมลพิษจากไตรฟลูออโรเอทิลีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนเบญจมาศมีคุณสมบัติในการดูดซับเบนซินและไซลีน ทำให้ลดมลพิษจากเบนซินได้

การปลูกดอกไม้ในร่มควรเลือกพันธุ์ไม้ตามความต้องการที่แท้จริง โดยทั่วไปควรปฏิบัติตามหลักการไม่ปล่อยสารอันตราย ดูแลรักษาง่าย มีกลิ่นหอม และมีปริมาณที่เหมาะสม แต่โปรดทราบว่าแม้ว่าดอกไม้จะมีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศมากกว่า แต่การฟอกอากาศที่ดีที่สุดคือการทำให้การระบายอากาศดีขึ้นและทำให้อากาศภายในอาคารสดชื่นขึ้น


เวลาโพสต์ : 19 มี.ค. 2564